--------------------------------------------------------------------------------
สำคัญที่สุดคือ เมื่อเราได้ให้บริการเครื่องเสียงแบบเต็มวง โดยที่ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจก็ตาม วันนี้
ผมจะมาเล่าสู่กันฟังเรื่องของลำโพงโมนิเตอร์ให้สมาชิกฟังครับ นักดนตรีทุกคนต่างก็มีอุปกรณ์การแสดง ทั้งในหน้าที่และจังหวะ ของแต่ละคนแตกต่างกันไป เช่น กลอง กีตาร์ เบส อีเลคโทน แต่มีคนหนึ่งที่ใช้ความสามารถล้วนๆ คือนักร้อง ที่เปล่งเสียงที่ต้องการออกมาจากร่างกายที่เหมือนเราทุกประการ ความดังเบาและความไพเราะก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของแต่ละคน
แต่มันมีปัญหาอยู่อย่างหนึ่งคือ นักนตรีทุกคนต่างมีเครื่องขยายเสียงและเครื่องดนตรีเป็นของตัวเองที่มีความดังของเสียงมากกว่าขีดความสามารถของมนุษย์ ทั้งวง ยกเว้นนักร้อง สมมุติดนตรีเล่นเต็มวงเวที่กว้าง 30เมตร นักร้องร้องไปโดยที่ไม่มีทางจะได้ยินเสียงของตัวเอง เล่นไปเล่นมาล่มไม่เป็นท่าแน่นอนเพราะคนในวงไม่รู้ว่าร้องไปถึงไหนแล้ว หรือตรงไหนต้องใส่อารมณ์หรือฟิลลิ่ง ลงไป ต่างคนต่างเล่นมัวแน่นอน และมีผลทำให้เราโดนด่าได้เนื่องจากควบคุมระบบในตอนนั้นได้ไม่ดี ดนตรี ทุกชิ้น ถ้าไม่มีเนื้อร้องไม่ได้ยินซึ่งกันและกัน ต่อให่เล่นเต็มงวง ความเข้าถึงในอารมณ์ และความหมาย ยังไงก็สู้แบบที่มีศิลปินมาร้องให้ควา่มหมายของเพลงประกอบกับดนตรี ไม่ได้
ซึ่งตรงนี้ กฏเหล็กของโมนิเตอร์คือ ตู้แอมป์ส่วนตัวของนักร้องเป็นหลัก หรือทุกใบต้องมีเสียงนักร้องดังออกมาเสมอไม่ว่าตำแหน่งไหนก็ตามบนเวที ทุกคนมีตู้แอมป์หมดในวงยกเว้นมือกลองเพราะกลองมันดังอยู่แล้ว ในกรณีที่เวทีขนาดเล็ก แต่กรณีที่งานที่มีขนาดเวที ที่ข้อนข้างใหญ่ควรเพิ่มดรัมฟิว หรือ โมนิเตอร์สำหรับกลองด้วยครับ ตรงส่วนนี้ก็ควรต้องใช้ตู้ลำโพงกลางเเหลมสองใบพร้อมตู้ชับ แอมป์สองแท่น ครอสและอีคิว อีกเซ็ตเล่นสองทาง ด้วยเนื่องจากตรงนี้ต้องใช้เสียงที่ค่อนข้างดังในระหว่างที่ตีกลองและฟังเสียงจากโมนิเตอร์เซ็ดนี้ไปด้วย สำหรับนักร้องถ้าไม่มีโมนิเตอร์ เหมือนเล่นกีตาร์โดยไม่มีตู้แอมป์ ลองคิดดูว่ามันจะดีเลย์แค่ไหน และซาวด์มันจะออกมาอย่างไรเมื่อต้องอยู่และต้องคอยฟังเสียงทั้งหมดของทั้งวง จากหลังตู้ลำโพงด้านหน้าเล่นไประแวงไป ทุกคนจะเล่นไม่ได้เลย
ผมคิดว่า แนวคิดในการส่งสัญญาณโมนิเตอร์ คือ ควรเน้นให้นักร้องได้ยินชัดเจน ทั้งเสียงของตนเอง เสียงดนตรีที่ที่ได้ทำการแสดงอยู่บนเวที ณ.จุดที่ยืนอยู่นั้นมันหายไปหรือค่อนข้างห่างกัน โมนิเตอร์จะช่วยเติมเต็ม ตำแหน่งอื่นในวงก็ต้องได้ยินเสียงนักร้องด้วย รวมถึงจังหวะและท่วงทำนอง คอรัส เครื่องดนตรีชิ้นอื่น เสียงเครื่องดนตรีชิ้นที่เราอยู่ใกล้มัน ที่ได้ยินชัดอยู่แล้วไม่ต้องส่งมา การทำซาวด์โมนิเตอร์นั้นค่อนข้างละเอียดอ่อน
ปัจจัยหลักของอุปกรณ์ที่ต้องมีคือ
- อีควอไลเซอร์ แบบโมโน หรือสเตอร์ ก็ได้ แต่โมโนจะดีกว่าและใช้แยกเป็นตัวตัวไปในแต่ละaux ถ้าระบบที่ไม่ใหญ่มากที่นิยมสำหรับงานอิเลคโทนคาราโอเกะจะไม่ค่อยมีปัญหาครับเนื่องจากใช้คนที่แสดงความบันเทิงไม่มาก แต่ถ้าเป็นวงดนตรีที่มีความกว้างของเวทีการแสดงที่ไม่มากนักง่ายๆคือตำแหน่งการยืนของนักดนตรีและนักร้อง ข้อนข้างใกล้กันมากห่างกันไม่เกิน2-3 เมตร ก็สามารถใ้ช้โมนิเตอร์ด้านหน้าด้วยกันได้โดยไม่ต้องมีไซต์ฟิวส์ แต่ถ้าเวทีกว้างมากและเล่นกันเป็นวง ก็จำเป็นต้องไซต์ฟิวเพราะโมนิเตอร์ด้านหน้านั้นไม่เพียงพอกับขนาดของเวที่ทั้งในเรื่องของไดนามิกซ์ของเสียง ทิศทาง มิติ และความต้องการเสียงจากด้านข้างในตำแห่งต่างๆ อีกทั้งความสูงของตำแหน่งลำโพงที่ไม่สามารถครอบคลุม ดังนั้นเมื่อมีไซต์ฟิวส์ที่กำเนิดเสียงจากด้านข้างทั้งสองข้างก็จะช่วยเติมเต็มตรงนี้ได้ครับ การส่งสัญญาณออกไปสู่โมนิเตอร์ที่นิยมสุดคือส่งจาก aux ของมิกซ์เซอร์ที่ใช้อยู่ ไปหาอีคิวเข้าแอมป์
เข้าสู่ลำโพงโมนิเตอร์ ช่องไหนส่งมากเร่งมาก ช่องไหนส่งน้อยเร่งน้อยอันไหนไม่เอาปิด มิกซ์ที่มี aux ยิ่งมากยิ่งดี ก็จะรองรับการทำงานได้ดีกว่า เพราะโมนิเตอร์อาจวางหลายจุดซึ่งแต่ละจุดของนักดนตรีแต่ละคนแต่ละหน้าที่ก็ต้องมีการปรับแต่งชดเชยเสียง และเป็นจุดที่ต้องดีที่สุด ความสวยงามและเป็นระเบียบในการวางตู้เมื่อมองมาจากด้านหน้าเวที เป็นเรื่องรองให้เน้นเสียงที่ออกมากจากโมนิเตอร์ต้องชัดเจนและมีมุมเอียงตำแหน่งที่พอดีกับศิลปินที่สุด ไม่ห่างเกินไปหรือไม่ติดเกินไปครับ
การจำลองบรรยากาศของเสียงบนเวที่ให้ทั่วถึงมีมิติ ของเครื่องดนตรีทุกชิ้นบนเวที ที่อาจจะห่างไกลจากเครื่องดนตรีนั้นนี้ ในตำแหน่งที่นักร้องยืนอยู่ สิ่งทั้งหมดนี้เรื่องดนตรีทุกชิ้นต้องพึ่งพากันและกันและสามารถถ่ายทอดผลงานการแสดงได้อย่างชัดเจน สนุกสนาน เมื่อนักดนตรีไม่เครียดผลงานก็ออกมาดีครับ
ที่บอกมาทั้งหมดนี้คือปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะทำให้นักร้องหรือนักดนตรีทุกคนรู้จังหวะทำนอง ในขณะที่ทำการแสดง ให้ออกมาได้อย่างลงตัวและพร้อมเพรียงกัน หรือระบบใหญ่ที่มีไซต์ฟิวส์เข้ามาเกี่ยวข้องอาจใช้มิกเซอร์ขนาดใหญ่ และแอมป์,ครอส,อีคิว,ลำโพง,อีกชุด
- เพาเวอร์แอมป์ ควรเลือกที่มีกำลังวัตต์สูง ๆ เพราะแอมป์กำลังวัตต์สูง จะสามารถรองรับการทำงานตรงนี้ได้ดีกว่า จึงเกิดการหอนของไมค์ยากกว่า เสียงออกมาชัดกว่าคมกว่าทะลุทะลวงกว่า ไม่แกว่ง ทั้งซับและกลางแหลมทั้งหมดเป็นไซต์ฟิว ตู้ลำโพงไซต์ฟิวส์ทั้งซับและกลางแหลมของไซต์ฟิวส์ทั้งสองข้าง ควรเป็นแบบเดียวหรือขนาดเดียวกัน และสูตรเดียวกับพีเอด้านหน้าได้ยิ่งดี เพราะจะทำให้การทำงานทั้งในเรื่องของโทนเสียงและการกลมกลืนกันทางเฟสของเสียงที่ออกมาข้อนข้างกลืนไม่หักร้างกันเองกันครับ
ส่วนใหญ่ระบบการทำงานของชุดที่ใช้ขับไซต์ฟิวส์ มักเล่นเป็นแบบสองทาง ผ่านอีคิวทั้งข้างซ้ายและขวา ตัดครอสให้อยู่ตำแหน่งแปดสิบลงไปครับ เพื่อลดอาการกวนไมค์บนเวทีได้สำหรับไซต์ฟิว แต่งานเล็กหน่อยเวทีไม่กว้างเท่าไหร่ ก็อาจจะลดจำนวนของตู้ลงมา
เช่น อาจใช้ไซด์ฟิวส์ ข้างละ2 เซ็ด หรือ 1เซ็ด ก็ได้ 1เซ็ตคือ กลาง2เบส2 ต่อข้าง ตามขนาดและรูปแบบของงาน และมิกซ์มอนิเตอร์ชุุุดบนควรจะเป็นซีรี์ย์เดียวกันกับ มิกซ์พีเอด้านหน้า เช่น บน soundcarf lx7 24 ล่างlx732
มิกซที่เป็นซีรี่ย์เดียวกันโทนเสียงจะเหมือนกันการใช้งานก็เหมือนกันซึ่งจะทำให้การทำงานนั้น ง่ายกว่า สาเหตุที่มิกเซอร์ตัวล่างมีช่องเยอะกว่า เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงพีธีการต่อพ่วงสัญญาณจากแหล่งอื่น เฉพาะหน้า หลายต่อหลายอย่าง ส่วนมิกซ์ที่อยู่ด้านบนเวที จะต้องมีการเชื่อมต่อสัญญาณ จากเครื่องดนตรีทุกชิ้นเข้าก่อนแล้วต่อ ไดเรคเอาท์ืออกมา ง่าย ๆ คือ ตัวบนเอาสัณญาณเสียงจากเครื่องดนตรี ชิ้นต่าง ๆ ผ่านออกไป โดยไม่ได้ผ่านการปรับแต่งใด ๆ ออกจากมิกเซอร์ตัวบนที่ออกจากช่องไดเรคเอาท์ ของมิกเซอร์ตัวบนเข้าสู่สายมัลติคอร์สู่มิกซ์ด้านล่าง (มิกเซอร์ที่เหมาะสมกับการใช้งานสำหรับมิกซ์โมนิเตอร์บนเวทีจะต้องมีช่องไดเรคเอาท์เท่านั้น)
- จากสายมัลติคอร์ บนเวทีแล้วมาเข้ามิกซ์ตัวด้านหน้าเวที แยกกันอิสระทั้งสองตัวในการปรับแต่งเสียง มิกซ์ใครมิกซ์มัน มิกซ์ที่อยู่บนเวทีให้ต่อสัญญาณออกที่ mainout เข้าอีคิวครอสไปหาเพาว์เวอร์ ออกลำโพงไซต์ฟิว แยกอิสระกับมิกซ์ข้างล่างสัญญาณจะเครื่องดนตรีแค่ผ่านแล้วก็ออกมาหามิกซ์ด้านหน้าควบคุมระบบพีเอหลัก การปรับแต่งเสียงที่ออกมาจากตู้ไซต์ฟิว สามารถปรับแพนซ้ายขวาให้เสียงของเครื่องดนตรีนั้นนี้ตรงแชแนลมิกซ์ที่ใช้ควบคุมเสียงโมนิเตอร์และไซต์ฟิวที่อยู่ด้านบน โดยวิธีการจำลองสถานะการเสียง ในตำแหน่งนั้นนี้สำหรับเสียงที่จะออกไปยังลำโพงไซต์ฟิวซ่ายขวา
-การปรับแต่งมิกซ์สำหรับไซต์ฟิวนั้น สามารถกำหนดซัพกรุฟเอาท์ และสามารถปรับสัญญาณจากเครื่องดนตรีต่างๆแพนซ้ายขวาไว้ตามความต้องการหรือตรงกลางได้หรือไม่ได้นั้น ก็ขึ้นอยู่กับการจำลองสถาณะการเสียงบนเวที มิกซ์ตัวบนก็สามารถทำได้แน่นอน และจะทำให้เกิดบรรยากาศของเสียงบนเวที่ชัดเจน
จำลองตำแหน่ง ของเครื่งดนตรีแต่ละจุด สเมือนจริงดังทั่วทุกจุด ไม่ดังเกินไป และไม่หนาแน่นคลุมเคลือจนเกินไป ไมค์ร้องหรือคอรัสปรับ pan ที่มิกซ์เอาไว้ตรงกลางนะครับ การไม่ได้ทำการกำหนดและปรับแต่งทิศทางซ้ายวาของเครื่องดนตรีสำหรับมิกซ์ไซต์ฟิวนั้นอาจทำให้เสียกำลังงานรวมของ ซุดแอมป์ขยายไซต์ฟิวส์โดยใช่เหตุ และทำให้ไม่มีมิติ ซึ่งเกิดจากการที่ไม่ได้จัดระเบียบเสียง ของเครื่องดนตรีที่ต้องการไปยังไซต์ฟิวส์ว่าข้างไหนเน้นอะไร ส่วนโมนิเตอร์หน้าเวทีก็ส่งจาก aux ของมิกซ์เซอร์ที่อยู่ด้านบนก็ได้หรือจะส่งจาก aux ของมิกซ์ที่อยู่ด้านหน้าก็ได้
ทั้งสองอย่างมีความแตกต่างกันและทั้งข้อดีและข้อเสียครับ การส่ง aux จากมิกเซอร์ตัวหลักเข้าหาโมนิเตอร์ ที่อยู่ด้านหน้านั้นก็มีข้อดี คือว่าเมื่อเราต้องการเร่งหรือหรี่โมนิเตอร์หน้าเวทีเราสามารถจัดการจากจุดนี้ได้เลยแต่มีข้อเสียคือ เสียงที่ออกมาจะสู้การส่ง aux จากมิกซ์ตัวที่อยู่ด้านบนเวทีไม่ได้ เนื่องจากสัญญาณเสียงได้ผ่านสายมัลติคอลที่มีความยาวข้อนข้างมาก สัญญาณเสียงทุกอย่างที่ผ่านสายที่ไม่ดี เสียงต้นสายกับปลายสายเมื่อผ่านสายมัลติคอลเสียงจะไม่เหมือนกันครับ บางครังมีของแถมมีจี่หรือฮ้มได้ หรือเมื่อกด phantom จากมิกซ์ปุ๊บเกิดการจี่ ฮัมต่อเนื่องแก้ไม่หาย จนต้องไปซื้อตัวปล่อย phantom แยกมาใช้ หรือบางทีก็แก้ไขโดยการใส่ถ่านที่ไมค์แบบที่ต้องใช้ไฟเลี้ยงแทนสำหรับไมค์กลองรุ่นที่ใส่ถ่านได้ก็ถือว่าโชคดีครับ
-สายยี่ห้อไม่ดีก็อาจทำให้รายละเอียดของเสียงหายไปอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะของจีนทั้งหลาย ส่วนยี่ห้อดีราคาสูงมาก ก็อาจสูญเสียรายละเอียดน้อยหน่อย ถ้าอย่างมากสุดๆมันก็จะสูญเสียอยู่ครับแต่น้อยมาก อาจต้องเสียเงินเยอะแต่ควรต้องยอมอย่างยิ่งครับ ตรงนี้แนะนำนะครับให้ใช้สายที่ยี่ห้อดีที่สุดเท่านั้น เนื่องจากมันมีผลกับเสียงที่ออกมา ทั้งหมดชนิดที่ว่าแทบไม่เชื่อหูตัวเองเลยก็ว่าได้ครับ สายมัลติคอลที่ไม่ดีนั้นมันจะทำให้เกิดอาการของเสียงที่ออกมาจากเครื่องเสียงที่เราลงทุนซื้อทุกอย่างอย่างดีหมดแต่เสียงมันไม้ได้เรื่องจนไม่ทราบสาเหตุส่วนใหญ่ ยิ่งความยาวมากก็แย่หนักไปอีกครับ
-เพราะสายมัลติคอลที่ไม่มีคุณภาพนี่แหละครับ ผมโดนมาเยอะครับ ยิ่งที่ว่าราคาถูกและดีมันข้อนข้างหายากและไม่น่าจะมีครับ ยอมจ่ายแพงไปหน่อย แต่ได้เสียงที่ออกมาจากทั้งระบบที่ดีกว่าเท่าตัวเลยก็ว่าได้เรื่องสายนี่ ขอให้เน้นเลยนะครับเล่นเอาเหงื่อตกก็หลายครั้งครับ สาย sunrise ขอเปลี่ยนยี่ห้อเป็น บรรลัย เลย มันทำให้เสียงแย่ลงมากมาย ขอบอกครับ สายมัลติคอลสำคัญมากเป็นอย่างยิ่งครับ สายไม่ดีมิกซ์ที่ใช้ราคาแสนเสียงออกมาห้าหมื่นเซ็งครับ สายไม่ดีจะทำให้เสียงที่ออกมาขุ่นมัวเละทำให้ความกว้างของความถี่เสียงที่ถูกถ่ายทอดออกมา จากแหล่งกำเนิดนั้แคบลงและไม่เหมือนต้นฉบับ
-กลับมาต่อครับการส่ง aux ที่มิกซ์ที่อยู่ด้านหน้าเวที จะทำให้ยากในการสื่อสารเวลานักร้องอยากได้
โมนิเตอร์ตามที่เขาต้องการนั้นมันข้อนข้างที่จะลำบากครับ เนื่องจากระยะที่เรายืนมิกซ์ด้านหน้ามันข้อนข้างไกลกันมากครับ ส่วนวิธีส่ง aux จากมิกซ์ที่อยู่ด้านบนเข้าสู่โมนิเตอร์ชุดหน้าเลยนั้นเสียงจะดีกว่าเนื่องจากความยาวของสายที่สั้นกว่าแต่จำเป็นต้องมีบุคลากร อีก1 คน หรือถ้าเป็นศิลปินตัวตัวจริงเขาจะมีซาวด์ส่วนตัว มาคอยจัดสาวเอ้ยจัดซาวด์ให้กับวงดนตรีด้วยครับ ว่าจะให้เสียงอะไรออกตรงไหนแนวเสียงเป็นไง คอยควบคุมมิกซ์ตัวนี้ตามคำเรียกร้อง จนอยู่ในระดับที่นักดนตรีทุกคนพอใจเมื่อมีซาวด์ปรจำวงมางานตรงนี้ก็จะง่ายขึ้นมากครับ ส่วนเราก็จะมีหน้าที่คอยซัพพรอดให้เขาแก้ไขขอไดได้จัดได้ได้
-การมิกซโมนิเตอร์จากด้านบนจะสามารถเข้าถึงความต้องการของเสียงในแต่ละจุดที่ต้องการได้ง่ายกว่า เพราะเราหรือซาวด์ประจำวง ต่างก็อยู่บนเวทีด้วยกันกับวงดนตรี อีกทั้งเวลาเซ็ตอีคิวและการจัดระดับความดังของทั้งโมนิเตอร์ของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น และไซต์ฟิวมันจะง่ายกว่า เพราะเราหรือซาวด์ที่มากับวงก็อยู่บนเวทีเช่นเดียวกันอีกทั้งการสื่อสารกับนักดนตรีก็ข้อนข้างที่จะลื่นไหลกว่าการปรับโมนิเตอร์ จากมิกซ์ตัวหลักด้านหน้าอย่างแน่นอน ตรงนี้ส่วนใหญ่ถ้าเซ็ตได้ลงตัวแล้วก็จะไม่ค่อยมีอะไรมากแล้วครับ ต้องการเสียงจากช่องไหนก็ส่ง aux ช่องนั้นไปยังโมนิเตอร์ด้านหน้าตามต้องการ
-ไซต์ฟิวส์ที่มีความดังมากจนเกินไป อาจจะทำให้นักร้องไม่ได้ยินโมนิเตอร์ด้านหน้าและอาจรบกวนระบบไมค์บนเวทีได้
-สิ่งที่เป็นไปไม่ได้เลยคือการรับงานระดับคอนเสริท์เราจะบังคับให้ศิลปิน อยู่ในขอบเขตที่เราต้องการได้ ปัจจัยหลัก คือให้คิดว่าเราต้องทำให้ได้ การทำซาวด์มันต้องใช้ความคิดสร้างสรร และการแก้ป้ญหา และการพูดคุย ทำความเข้าใจกับผู้ที่ร่วมงานอย่างละมุนละม่อม เพื่อให้เกิดความเข้าใจซึ่งกันและกัน แนวทางการจัดระเบียบเสียงที่ออกมาจากโมนิเตอร์และไซต์ฟิวส์ ก็ใช้วิธีการจำลองเสียงออกมา ทั้งโมนิเตอร์และไซต์ฟิวส์ ให้ในตำแหน่งที่นักดนตรีหรือ ศิลปินยืนอยู่เขาเล่นได้ง่ายได้เสียงที่ต้องการเต็มวงชัดเจน ในตำแหน่งต่างๆบนเวที่นั้น ที่เราได้รับเลือกเข้ามาให้บริการ ในระบบเสียงห้ามมีข้อต่อรอง มันต้องทำได้ทุกอย่างไม่มีคำว่า.ไม่ได้ หรือพอไปได้ และห้ามหวังพึ่งสิ่งศักด์ศิทธ์ เพราก่อนหน้านี้ทุกอย่างการเตรียมงานมันอยู่ที่เรา
-โมนิเตอร์ที่ดีสุดยอด เซ็ตยากกว่า พีเอ แน่นนอน ผมเคยมีประสพกาณคือไฟดับ พีเอเงียบหายไปเลยแต่นักดนตรีเล่นต่อไป จนเราแก้ไขจนไฟกลับมาและพีเอดีเหมืนเดิม แต่นักดนตรีไม่รู้ว่าไฟดับเมื่อกี้ ประมาณ5นาที่ที่เสียงไม่ออกพีเอ แสดงว่าชุดโมนิเตอร์ใและไซต์ฟิว เพียงพอมากและระบบหลักไม่ไปกวนระบบโมนิเตอร์เลยชนิดที่ว่าไฟดับยังไม่รู้ การเซ็ทซาวด์โมนิเตอร์ หลักหลักเลยเนี่ยต้องดูว่าโมนิเตอร์เซ็ตนี้ จะเอาเสียงของเครื่องดนตรีและเสียงร้องที่ออกมา โดยวิเคราะจากแหล่งกำเหนิดเสียงจริงๆที่เป็นโจทย์ เสียงจากแหล่งที่มาต่างๆว่าครอบคลุมความถี่จากไหนถึงไหน ส่ง auxไป 4ชุดผ่าน อีคิวสี่ตัวสำหรับโมนิเตอร์4เซ็ต ส่ง2aux ก็ใช้อีคิวสองตัวสำหรับโมนิเตอร์2เซ็ต ตามขนาดของงานหรืองบประมาณและขีดความสามารถของมิกเซอร์ที่ใช้อยู่ เหมือนที่บอกข้างต้นครับ aux ยิ่งเยอะก็ยิ่งดีครับ
-ส่วนการอีคิวเสียงที่ต้องการคือ อันไหนไม่ใช้จะได้คัดออกตามความสามารถ และอยู่ในช่วงความถี่ที่คลอบคุมการทางานของเสียงที่ต้องการ ให้ออกโมนิเตอร์ไม่สูญเสียความเป็นธรรมชาติ ไม่หอนง่าย ต้องไม่บางและไม่หลอกหรือมีความแตกต่างจากเสียงต้นกำเนิดจนเกินไป และไม่เกินกำลังของตู้ลำโพงโมนิเตอร์ ที่กำลังใช้งานอยู่ในขณะนั้น หรือถ้ามีงบมากหน่อยก็ควรเลือกซื้ออีคิวรุ่นที่ดีอีกหน่อยก็ควรเลือกรุ่นที่ มีปุ่มตัดกวาดความถี่ที่ไม่ต้องการ จากต่ำไปสูงและจากสูงไปต่ำหรือเรียกง่ายง่ายคือ lowcut และ hicut แบบหมุนได้ คล้ายมีครอสในตัว จะดีมากเมื่อใช้กับโมนิเตอร์ชุดหน้า
สำหรับการอีคิวเสียงโมนิเตอร์ด้านหน้าำหรับนักร้องช่วงปลายเอาออกหน่อย ตามขอบเขตการทำงานของเสียงและความสามารถในการรับเสียงของไมค์โครโฟนที่ใช้งานอันไหนรู้สึกว่าล้นความถี่ที่เกินที่หอนก่อนเพื่อน ก็คัดออกตามความเหมาะสม ไล่เช็คเสียง จือ ออ อาอี ซีซี่ แล้วแต่ความถนัดของแต่ละคนนะครับสำหรับการออกเสียงเพื่อเช็คซาวด์มีมุขก็หยอดไปครับ
-สำหรับโมนิเตอร์ช่วงความถี่ low 40-70-100hz ดูหน้างาน ถ้างานที่ไม่ได้เล่นสด สมมุติมิปัญหาโมนิเตอร์เสียงบางหรือจำเป็นต้องวางโมนิเตอร์ในระนาบเดียวกับพีเอ ถ้าบางมากๆให้กลับขั้วลำโพงโมนิเตอร์ทั้งหมดเลย เพราะลำโพงหันสวนกันกับลำโพงพีเอที่อยู่ในระนาบเดียวกัน ถ้ากลับเฟสเสียงมันจะเสริมกันทำให้ฟังดูหนากว่าเก่า เป็นพิเศษในความถี่300hz ลงไป แต่ถ้าเล่นสดเสียงจากลำโพงมอนิเตอร์ ที่มีความเอียงของตู้ที่ไม่เหมาะสมหรืออยู่ใกล้กับชุดกลองจนเกินไป อาจไปกวนไมค์ที่จ่อกระเดื่องได้ อาจเกิดค่า แอมป์เบี้ยนตรงความถี่ำ่ได้ในช่วงความถี่ 100hz ถึง 200hz มักจะไปรบกวนไมค์โดยเฉพาะแบบไดนามิกซ์ ที่ใช้จับเสียงกลองและกระเดื่องที่อยู่ด้านล่างได้
-หลายท่านอาจสงสัยทำไมลำโพงโมนิเตอร์มันต้องเอียง และทำไมไม่เอาแขวนด้านบนและยิงลงมานี่ ก็อาจเป็นอีกแนวทางสำหรับงานติดตั้งในผับเธคที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ก็นิยมแขวนจากด้านบนแล้วยิงลงมาเข้าหาเวที ทั้งนี้ทั้งนั้นเสียง มีน้ำหนักทิศทางและการตก ส่วนไมค์ร้องก็มีจุดที่สามารถรับสัญญาณ และจุดบอดฝั่งตรงข้าม ที่เป็นจุดที่ องศาของหน้าลำโพงโมนิเตอร์ต้องทำมุมกันพอดีเมื่อได้ทำการติดตั้งจุดนี้สำคัญมากครับ ดูตามรูปครับ ส่วนการที่จะเพิ่มโมนิเตอร์ไปยังตำแหน่งต่างต่างที่ต้องการไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกลองชุดเครื่องเป่าหรือจุดต่างตามจุดประสงค์ให้เข้าถึงความพอใจของทุกท่านก็ส่งaux ไปยังชุดต่างต่างได้โดยใช้แนวคิดและหลักการเดียวกันนี้ได้เลยครับ
-การได้พบปะเข้าถึงและได้พูดคุยกับนักดนตรีก็จะำให้เราเข้าถึงและมีแนวคิดในการทำงานที่เราสามารถเข้าไปถึงความเข้าใจของ ความต้องการของศิลปิน และคำว่าดนตรีได้มากกว่าเดิมครับ ว่าแก่นแท้มันต้องออกมาในลักษะไหน ถ้าไม่รู้ก็ถามครับ คราวหน้าเราก็เห็นแนวทางและความต้องการของนักดนตรีที่มีหน้าที่ๆแตกต่างกันไป เสียงกีตาร์ชนิดนี้ต้องออกโทนเสียงยังไง เครื่องเป่าควรเซ็ตเสียงสำหรับอุปกรณ์ชิ้นนี้ควรทำยังไง แนวเพลง แนวดนตรี ความแตกต่าง ในการปรับระดับความดังของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้น ในเพลงแต่ละแนวควรทำอย่างไร