....สำหรับผมแล้วจะเล่นทั้งแบบแยกไลน์และไม่แยกไลน์ จะเล่นแยกไลน์เมื่ออกงานสนามขนาดหย่อมๆขึ้นไป และจะเล่นแบบไม่แยกไลน์สำหรับงานเล็กๆ หรืองาน In door ในห้อง ในหอประชุม .. จากที่ใช้มางานมาทั้ง 2แบบการเล่นคาราโอเกะแบบแยกไลน์นั่นดีกว่าการเล่นแบบธรรมดา 2 ch ทั่วไปแน่นอนถึงแม้ว่าจะใช้ SF2 ที่ดีเทพขนาดไหนก็ตาม
...แต่การเล่นคารโอเกะแยกไลน์มันมีทั้งดี และไม่ดี
....ถ้าคนเล่น คนปรับคุมระบบรู้ เข้าใจ การฟังออกแยกแยะออกว่าเสียงตามธรรมชาติ เสียงที่ดีเพราะของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นนั้นมีโทนเสียงเป็นแบบไหนอย่างไร ก็จะดีมีประโยชน์มากเพราะจะสามารถใช้ไลน์มิกเซอร์ที่ใช้กับชิ้นดนตรีนั้นปรับเพิ่มความดัง +ทุ้ม กลาง แหลม ของชิ้นดนตรีต่างๆ ให้คุณภาพ โทนเสียงออกมาได้อย่างเยี่ยมยอด หรือพูดง่ายๆว่าสามารถปรับ ควบคุมได้ตามความต้องการของเรา
...อีกอย่างเมื่อปรับเสียงชิ้นดนตรีต่างๆออกมาให้ได้คุณภาพเสียงที่ดีได้แล้ว ต้องรู้ และเป็นในการผสมเสียงชิ้นดนตรีต่างๆให้ออกมาสมดุลย์กัน กลมกลืน เหมาะสมกัน ไม่มีเสียงใดดังมากเกินไป หรือเบาเกินไป โด่งเกินไป ลึกเกินไป หนักเกินไป หรือบางเกินไป
...ยิ่งถามเล่น-ปรับมิกซ์เป็น เก่ง แล้วแยกไลน์ชิ้นดนตรีออกมาได้มากเท่าไรยิ่งดีเท่านั้น พูดๆไปมันก็เหมือนการปรับมิกซ์ดนตรีเป็นวง เล่นสดๆนั่นแหละครับ
....แต่ถ้าคนปรับมิกซ์ ไม่เก่งไม่เป็นในเรื่องความรู้ เข้าใจ การฟังออกแยกแยะออกว่าเสียงตามธรรมชาติ เสียงที่ดีเพราะของเครื่องดนตรีแต่ละชิ้นนั้นมีโทนเสียงเป็นแบบไหนอย่างไร และการผสมเสียงให้กลมกลืนลงตัว สมดุลยืกันแล้ว..ผมว่าการเล่นแยกไลน์จะทำให้เสียหายกว่าเล่นแบบธรรมดาครับ
..
...ส่วนการเล่นแบบธรรมดา โดยใช้ SF นั้น ถ้าคนที่ใช้ปรับ แต่ง SF2 ไม่เป็นก็ต้องเล่น SF2 ที่เขาทำมาให้แบบไหนก็แบบนั้น ซึ่งจะไม่สามารถใช้มิกซ์เซอร์+ระบบของเราปรับแต่งชิ้นดนตรีใดได้เลย..แต่ก็เหมาะกับระบบเล็กๆหรือท่านที่ปรับ มิกซ์ชิ้นดนตรีไม่เก่ง ไม่ชำนาญ....ซึ่งก็ต้องเสาะหา SF2 ที่เขาทำชิ้นดนตรีต่างๆมาดี กลมกลืน สมดุลย์ลงตัวที่สุดมาใช้แหละครับ.