ปลาสำลียำมะม่วง
ส่วนผสม
ปลาสำลีขนาดกลาง 2 ชิ้น
ไข่ไก่ 1 ฟอง
แป้งอเนกประสงค์ 1 ถ้วย
เกล็ดขนมปังป่นสำหรับชุบปลาทอด 1 ถ้วย
เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือเล็กน้อยสำหรับทาบนเนื้อปลา
พริกทอดสำหรับกินแกล้มตามชอบใจ
ส่วนผสมยำมะม่วง
มะม่วงดิบเปรี้ยว 1 ลูก
หอมแดง 5 หัว
พริกขี้หนู 5 เม็ด
น้ำตาล น้ำปลา ตามใจชอบ
วิธีทำ เริ่มจากนำปลาสำลีมาล้างให้สะอาด ทาเกลือเล็กน้อยให้ทั่วตัวปลาแล้วนำมาผึ่งไว้ให้แห้ง หลังจากนั้นนำปลาสำลีทั้งสองชิ้นมาคลุกกับเเป้งให้ทั่ว
แล้วนำไปชุบไข่ที่เตรียมไว้ แล้วมาคลุกกับเกล็ดขนมปังให้ติดทั่วกันทั้งชิ้นปลา เสร็จแล้วหันมาตั้งกระทะใส่น้ำมันให้พอท่วมชิ้นปลา ตั้งไฟปานกลาง
พอน้ำมันร้อนดีแล้วก็นำปลาสำลีลงไปทอดจนเกล็ดขนมปังด้านนอกเริ่มเป็นสีเหลืองจึงตักออกมาพักให้สะเด็ดน้ำมัน
(ส่วนตอนจะกินให้โรยหน้าด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์กับพริกทอดตามใจชอบเพื่อเพิ่มรสชาติ)
คราวนี้หันมาจัดการกับยำมะม่วงกันบ้าง นำมะม่วงเปรี้ยว(จี๊ด)มาซอยให้เป็นเส้นเล็กๆ เท่าๆ กัน จับเอาหอมแดงและพริกขี้หนูมาซอยๆๆ เป็นชิ้นเล็กๆ
จากนั้นนำส่วนผสมยำมะม่วงมาคลุกรวมกัน เติมน้ำปลา น้ำตาลชิมรสตามใจชอบ หรือจะทำน้ำจิ้มซีฟู้ดไว้จิ้มกับปลาสำลีอีกอย่างหนึ่งด้วยก็ได้
ก็แค่เอาพริกขี้หนูและกระเทียมมาตำให้ละเอียด เติมน้ำปลาเล็กน้อย อยากให้รสเปรี้ยวหวานอย่างไรก็ใส่ได้ตามใจ
เป็นอันเสร็จเรียบร้อยกับเมนู "ปลาสำลียำมะม่วง" เนื้อปลาสำลีกรอบนอกนุ่มในกับยำมะม่วงรสเปรี้ยวปาก เมื่อกินคู่กันก็จะได้รสชาติที่กลมกล่อมเข้ากัน
แต่ของอย่างนี้ไม่ลองชิมลองทำเองก็คงไม่รู้
เครื่องปรุง
◊ ปลาช่อนขนาดย่อมๆ ๑ ตัว (ไม่ต้องใหญ่มากหรอกค่ะมันแพง แต่กินแค่ปีละครั้งก็คงไม่เป็นไรหรอก)
◊ ผักกระเฉด ๑๐๐ กรัม
◊ ถั่วฝักยาว หรือถั่วอื่นๆ ๑๐ ฝัก
◊ ผักกาดขาว กะหล่ำปลี แครอท ผักอะไรก็ใด้ที่มีที่ชอบอย่างละนิดหน่อย
◊ มะขามเปียกละลายน้ำ ๑ ถ้วย
◊ น้ำตาลปี๊บ ๑-๒ ช้อนโต๊ะ
◊ น้ำปลา ๔ ช้อนโต๊ะ
◊ น้ำพริกแกงส้มสำเร็จรูป ๓ ช้อนโต๊ะ (วันนี้ขี้เกียจตำพริกแกง)
วิธีทำ
◊ ขอดเกล็ดปลาช่อนล้างท้องให้สะอาด ตัดท่อนหางนำไปต้มในน้ำเดือดให้สุก
◊ ท่อนหัวผ่าครึ่งเป็น ๒ ซีก ท่อนตัวตัดเป็นท่อนๆ หนาประมาณ ๑ นิ้ว นำไปคลุกเกลือ ๒ ช้อนชา แล้วทอดในน้ำมันให้เหลืองกรอบ ตักขึ้นพักไว้
◊ น้ำพริกแกงส้มถ้าชอบรสจัดเข้มข้น สามารถนำพริกแห้ง ๓ เม็ดแช่น้ำเอาเมล็ดออก หอมแดง ๓ หัว กะปิ ๑ ช้อนชา โขลกละเอียดผสมกับน้ำพริกแกงส้ม ๓ ช้อนโต้ะ แล้วแกะเนื้อปลาที่ต้มไว้โขลกกับน้ำพริก
◊ ตั้งน้ำครึ่งหม้อ (ประมาณ ๓ ถ้วย) ผสมน้ำต้มปลาตั้งไฟให้เดือด ใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ พอเดือดอีกครั้ง ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะขามเปียก น้ำตาลปี๊บ ปรุงรสตามชอบ
◊ ผักทั้งหมดล้างน้ำให้สะอาด หั่นกะหล่ำปลี ผักกาดขาวเป็นท่อนๆ แครอท ถั่วฝักยาว หั่นเป็นท่อนๆ ประมาณ ๓-๔ ซ.ม.
◊ ผักกระเฉดเด็ดเอายอดหรือส่วนที่อ่อนๆ ใส่ผักลงหม้อ (ยกเว้นผักกระเฉด) พอผักนุ่มชิมรสอีกครั้งปรุงรสให้ถูกใจ ใส่ผักกระเฉด ใส่ปลา คนให้ทั่วยกขึ้นทันที ตักใส่ถ้วยเสริฟร้อนๆจึงจะอร่อยกรอบ ถ้าต้มนานไปผักจะเหี่ยวเหนียวไม่อร่อย
ปลากะพงนึ่งบ๊วย
ส่วนผสมที่ต้องเตรียม
ปลากะพงขาว 1 ตัว
บ๊วยดอง 2 เม็ด
น้ำบ๊วย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุปไก่ ½ ถ้วยตวง
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันงา 2 ช้อนชา
ซอสถั่วเหลือง 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ้วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ต้นหอมหั่นเป็นท่อนๆ ¼ ถ้วยตวง
ขิงหั่นฝอย ½ ถ้วยตวง
ขึ้นฉ่ายหั่นเป็นท่อนๆ ¼ ถ้วยตวง
พริกชี้ฟ้าหั่นฝอยตามยาว 2 เม็ด
ขั้นตอนในการทำเริ่มจากนำปลามาขอดเกล็ดออกให้หมด ควักไส้ออก แล้วบั้งตัวปลาข้างละ 2-3 บั้ง และล้างให้สะอาดผึ่งให้สะเด็ดน้ำ
จากนั้นนำปลามาใส่จานที่จะนึ่ง แล้วก็ใส่น้ำซุปลงไปพร้อมกับใส่บ๊วยดองบี้ให้แตก และก็ใส่น้ำมันงา น้ำมันหอย ซอสถั่วเหลือง ซีอิ้วขาว น้ำบ๊วย น้ำตาลทราย ราดให้ทั่วตัวปลา
แล้วก็นำต้นหอม ขึ้นฉ่าย ขิง และพริกชี้ฟ้าแดง มาคลุมให้ทั่วบนตัวปลาอีกที จากนั้นจึงนำไปนึ่งในลังถึง นึ่งจนปลาสุก ก็เป็นอันว่าเสร็จสรรพ
ปลาช่อนนาเผาเกลือ
วิธีทำ
1.ใช้ปลาช่อนนาขนาด 7-8 ขีด ขอดเกล็ด ควักไส้ ล้างให้สะอาด
2.ตะไคร้ทั้งต้นทุบหัวให้แตก ยัดเข้าทางปากทะลุถึงกระเพาะปลา
3.ใช้เกลือป่นเคล้าพอกให้ทั่วตัวปลา นำไปย่างบนเตาถ่านหรือเตาอบไฟฟ้าด้านละ 30 นาที ใช้ไม้ลูกชิ้นปิ้งแทงเข้าไปในเนื้อปลา ถ้าน้ำไหลออกใสแสดงว่าสุกแล้ว
4.ลอกเกลือและหนังปลาออก ตักเนื้อปลา นุ่ม ๆ จิ้มน้ำพริกหนุ่มหรือน้ำจิ้มซีฟู้ด
สูตรน้ำจิ้มซีฟู้ด
1.ต้มน้ำตาลทรายจนเป็นน้ำเชื่อม
2.ใส่รากผักชี 2 ราก กระเทียมปอกเปลือก 5 หัว พริกขี้หนูสด 20 เม็ด นำไปปั่นรวมกับน้ำเชื่อมจนละเอียด
3.ปรุงรสด้วยน้ำปลาอย่างดี บีบน้ำมะนาวลงไปให้ออกรสเปรี้ยวนำ ตามด้วยรสเค็ม เผ็ดกลมกล่อม เข้ากันดีกับเนื้อปลาช่อนเผาและผักขึ้นฉ่ายสด ๆ